บิเอลซ่าจำใจลาลีดส์ หลังโดนปลดกลางอากาศ

บิเอลซ่าจำใจลาลีดส์1

กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ มาร์เซโล่ บิเอลซ่าจำใจลาลีดส์ ทีมรักที่ปลุกปั้นมากับมือ เดินออกจากถิ่นเอลแลนด์ โร้ด ด้วยสถานะความเป็นบุคคลในตำนานแห่งสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่สิ่งต่างๆนั้น เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนทีมของเขาต้องดิ้นรนหนีตกชั้นได้อย่างไร?

การโดนปลดออกจากตำแหน่งของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ที่แบ่งแยกระหว่างพรีเมียร์ ลีก กับ แชมเปี้ยนชิพ ทำให้ไม่มีที่ว่างสำหรับเรื่องอารมณ์ความรู้สึกเสมอ

ลีดส์ ยูไนเต็ด จะต้องสูญเงินอย่างน้อย 50 ล้านปอนด์ หากพวกเขาตกชั้นในฤดูกาลนี้ และไม่ว่าใครจะพูดอะไรถึงเรื่องผลงานในระยะหลังของทีม แต่ตัวเลขรายได้ที่ลดลง นี่แหละคือเหตุผลเดียวที่ทำให้ทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ประธานสโมสร อันเดรีย ราดริซซานี่ เปิดเผยว่า “มันเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดที่ผมต้องทำ ในการไล่ บิเอลซ่า ออกจากตำแหน่ง”

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ได้กลายเป็นตำนานของลีดส์ไปแล้ว เขาไม่ใช่คนแรกที่ฟื้นคืนชีพยักษ์ที่หลับใหล หรือนำพาสโมสรจากลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นมาสู่อันดับกลางในตารางของพรีเมียร์ ลีก แต่มีกุนซือเพียงไม่กี่คนที่สร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ทรงพลังในระหว่างกระบวนการนี้ ดูบอลสด

ในท้ายที่สุด ความกลัวการตกชั้นมีความสำคัญเหนือเรื่องของอารมณ์ เหนือสายสัมพันธ์ที่ทำให้โครงการนี้เป็นโครงการพิเศษ นี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าในเกมสมัยใหม่ ความสัมพันธ์เช่นนี้ไม่ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของฟุตบอลอีกต่อไปแล้ว

มีการเปิดเผยว่า มาร์เซโล่ บิเอลซ่า มีแนวโน้มที่จะอำลาทีมเมื่อฤดูกาลจบลงอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เขาต้องออกจากตำแหน่งในเวลาไม่กี่เดือนก่อนหน้า จึงเป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้จริงมากกว่า ที่จะต้องยอมทนใจแข็งเอาไว้

แต่แม้สิ่งดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริง บิเอลซ่า ก็สมควรได้รับโอกาสที่จะต่อสู้กับการหนีตกชั้น และจากไปพร้อมเสียงปรบมือกึกก้องถิ่นเอลแลนด์ โร้ด ด้วยตัวของเขาเอง ทายผลบอล

ผลงานฤดูกาลนี้ไม่ดีเอาเสียเลย ถึงเวลาแล้วที่บิเอลซ่าจำใจลาลีดส์

บิเอลซ่าจำใจลาลีดส์2

มีเหตุผลให้เราเชื่อว่าการหนีตกชั้นของเขาอาจประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าในพักหลังพวกเขาจะหล่นลงไปอยู่ในโซนท้ายตารางก็ตาม แทงบอล

จริงอยู่กับผลงานในพักหลังที่ลีดส์มักจะโดนคู่แข่งถลุงประตูเป็นว่าเล่น แต่เราต้องไม่ลืมว่าก่อนการไร้ชัย 6 นัดหลังสุด ซึ่งรวมถึงการเจอกับทีม ‘Big Six’ 3 นัดในระหว่างนั้น พวกเขาคว้าชัยชนะได้ติดต่อกันในศึกพรีเมียร์ ลีก

ลีดส์ ยูไนเต็ด ยังไม่อยู่ใน 3 อันดับสุดท้าย และด้วยการที่ คัลวิน ฟิลลิปส์ กับ เลียม คูเปอร์ ที่กำลังจะกลับมาในอีก 2 สัปดาห์ การพลิกผลงานคืนกลับมาจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ถึงแม้ความหวังจะน้อยนิดก็ตามที

บิเอลซ่า สมควรได้รับโอกาสนั้น อย่างน้อยเพราะว่าเขาไม่ควรตกเป็นเหยื่อของความสำเร็จของตัวเอง โดยขุมกำลังลีดส์ส่วนใหญ่ยังคงเป็นมาตรฐานของแชมเปี้ยนชิพ เขาไม่ควรถูกลงโทษเพราะไม่สามารถทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้อีกครั้ง แทงบอลออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ราดริซซานี่ คงรู้สึกว่าตัวเขามีความชอบธรรม แม้ว่าตัวเลขเบื้องหลังจะชี้ให้เห็นถึงเรื่องราวที่เรียบง่ายซึ่งปัญหาอาการบาดเจ็บ ได้ปั่นป่วนผลงานในซีซั่นนี้ของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

สถิติที่ไม่ค่อยสู้ดี ตัวผู้เล่นหลักที่เจ็บระนาว ส่งผลให้ บิเอลซ่าจำใจลาลีดส์

บิเอลซ่าจำใจลาลีดส์3

ประตูที่ควรได้ (xG) และประตูที่ควรเสีย (xGA) ของพวกเขา แย่กว่าตัวเลขเมื่อปีที่แล้วเป็นอย่างมาก กับอัตราในปัจจุบัน เมื่อฤดูกาลจบลง xG ของพวกเขาจะลดลงถึง 12 หน่วย ขณะที่ xGA ของพวกเขาเพิ่มขึ้นไป 13 หน่วย ซึ่งเป็นส่วนต่างจำนวน 25 ประตูที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าปัญหาของลีดส์เกิดขึ้นได้อย่างไรในกรอบเขตโทษทั้งสองฝั่ง

ประเด็นที่จะสื่อถึงคือ ลีดส์ ยังคงเล่นด้วยแท็คติกส์, ความกระหายและทักษะที่เหมือนเดิมในการสร้างเกมรุกและเกมรับ สิ่งที่ขาดหายไปคือจังหวะสุดท้าย – จังหวะที่ แพทริค แบมฟอร์ด ควรเป็นคนทำในเกมรุก หรือ คูเปอร์ ในเกมรับ

เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว ลีดส์ มีโอกาสยิงเท่าเดิม (13.7 ครั้งต่อเกม) และสร้างโอกาสได้ใกล้เคียงตัวเลขเดิม (9.88 ครั้งต่อเกม ลดลงจากเดิม 10.4 ครั้งต่อเกม) แต่อัตราการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูของพวกเขา ลดลงจาก 11.9% เป็น 8.2% เห็นได้ชัดว่า บิเอลซ่า ต้องการ แบมฟอร์ด จริง ๆ

สำหรับเกมรับ การจ่ายบอลต่อแอ็กชั่นการเล่นเกมรับในฤดูกาลนี้ (Passes per defensive action หรือ PPDA, สิ่งที่ใช้วัดความสามารถในการเพรสซิ่งของแต่ละทีม) ถือว่าพัฒนาขึ้น โดยลดลงจาก 10.3 เป็น 9.7
ขณะที่การดักบอลของพวกเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 10.8 ครั้งต่อเกม เทียบกับ 10.4 ครั้งต่อเกมในฤดูกาล 2020/21

หากดูจากสถิติ เราสามารถพูดได้ว่าความรั่วในเกมรับของลีดส์ เป็นเพราะพวกเขาขาดแข้งคนสำคัญอย่าง คูเปอร์ ซึ่งฤดูกาลที่แล้วมีตัวเลขที่ดีที่สุดในการดักบอล (2.4 ครั้งต่อเกม), การเข้าสกัด (2.7 ครั้งต่อเกม), การบล็อก (1.3 ครั้งต่อเกม) และการเอาชนะลูกกลางอากาศ (3.8 ครั้งต่อเกม)
นอกจากนี้เรายังสังเกตเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปในช่วง 6 นัดที่ผ่านมา เมื่อความอ่อนล้าและความมั่นใจที่ตกต่ำ ทำให้แท็คติกส์การเล่นที่มีความเสี่ยงสูงพังลงแบบไม่เป็นท่า

นั่นคือหนทางที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ กับแผนการเล่นที่มีความเฉพาะ และเน้นเกมรุกเต็มสูบ แต่เมื่อ คูเปอร์ และ ฟิลลิปส์ กลับมา การครอบครองเกมเหนือคู่แข่งอาจเป็นสิ่งที่เราได้เห็นกันอีกครั้ง ซึ่งตารางการแข่งขันหลังจากนี้ก็ไม่ได้โหดร้ายกับ “ยูงทอง” มากเท่าไหร่นัก

สถานการณ์ในเชิงบวกเช่นนี้กำลังรอ เจสซี่ มาร์ช อดีตกุนซือทีมนิวยอร์ค เร้ด บูลส์ และแอร์เบ ไลป์ซิก ผู้ซึ่งเข้ามาสืบทอดตำแหน่งของ บิเอลซ่า ต่อไป ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปสำหรับๆแฟนๆยูงทอง ข่าวนักเตะ

ว่าด้วยเรื่องของสถิติ ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

– ลีดส์ ยูไนเต็ด มีผู้จัดการทีมทั้งหมด 18 คนที่เข้ามารับงานให้ “ยูงทอง” ตั้งแต่ตกชั้นจากพรีเมียร์ ลีกในปี 2004 กระทั่งเป็น บิเอลซ่า ที่ได้มาคุมทีมเมื่อปี 2018
– มาร์เซโล่ บิเอลซ่า พาลีดส์ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ ลีก หลังห่างหายไปนานถึง 16 ปี
– บิเอลซ่า พาลีดส์ จบฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ ลีกด้วยอันดับที่ 9 (ห่างจากพื้นที่ยุโรปแค่ 3 คะแนน)
– บิเอลซ่า มีสถิติคุมทีม 140 นัด, ชนะ 74 นัด, เสมอ 24 นัด และแพ้ 42 นัด (อัตราชนะ 52.86% ถือว่าดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของกุนซือสโมสรที่คุมทีมเกิน 5 นัด เป็นรองเพียงแค่ยอดตำนานอย่าง ดอน รีวี่ ที่ทำไว้ 53.24%)
– ลีดส์ ยิงประตูทั้งหมด 273 ลูก ในยุคของ บิเอลซ่า (เฉลี่ยเกมละ 1.6 ประตู)