ฟีฟ่าแบนรัสเซีย พร้อมลงโทษ 3 ข้อหาหนัก
“ฟีฟ่า” สั่งถอน “รัสเซีย” ออกจากบอลโลก เหตุรัสเซียก่อสงครามกับยูเครน
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” แถลงการณ์ประณามรัสเซีย หลังใช้กำลังบุก ยูเครน พร้อมลงโทษรัสเซียด้วย 3 ข้อห้ามหนัก
โดย “ฟีฟ่า” แถลงการณ์ดังเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูสันติภาพอย่างจริงจัง และเร่งด่วน ต่อสถานการณ์การรุกราน ยูเครน ของ รัสเซีย พร้อมกันนี้ยังมีบทลงโทษต่อ รัสเซีย 3 ประการด้วยกัน ประกอบด้วย
– ห้ามแข่งขันฟุตบอลในนามของ “รัสเซีย” แต่จะเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้ชื่อ “Football Union of Russia (RFU)”
– ห้ามใช้ธงชาติรัสเซีย และเพลงชาติรัสเซีย การการแข่งขันที่มีทีมจากสหพันธ์ฟุตบอลรัสเซียเข้าแข่งขันขณะที่ รัสเซีย กำลังอยู่ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป โดยอยู่ร่วมกลุ่มกับ โปแลนด์, เช็ก, สวีเดน ดูบอลสด
ภายหลังจากที่ รัสเซีย นำกองทัพบุกทำสงครามกับ ยูเครน ส่งผลให้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป “ยูฟ่า” ประกาศแบนทีมชาติ และสโมสรจาก รัสเซีย ห้ามลงแข่งขันในทุกรายการ และทุกระดับชั้นโดยไม่ระบุระยะเวลา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 “ฟีฟ่า” ประกาศให้ทีมชาติรัสเซีย ออกจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมอบชัยชนะให้กับ โปแลนด์ คู่แข่ง ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เช็ก กับ สวีเดน ทันที
ล่าสุด สหภาพฟุตบอลรัสเซีย ไม่ยอมง่ายๆ ประกาศเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) เนื่องจากเชื่อว่าทั้งสององค์กรลูกหนังไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการถอดรัสเซียออกจากการแข่งขัน โดยที่ไม่ได้พิจารณาถึงทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นไปได้ มีแต่จะเขี่ยรัสเซียออกจากการแข่งขันเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ทาง อาร์เอฟยู ยังต้องการให้ทีมฟุตบอลทั้งชายและหญิงของของหมีขาวได้กลับไปแข่งขันในทุกรายการ รวมทั้งต้องการค่าเสียหายจากการถูกลงโทษ เนื่องจากพวกเขาเป็นสมาชิกของทั้ง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า ทายผลบอล
ฟีฟ่าเปิดทางนักเตะต่างชาติในลีกรัสเซีย ระงับสัญญาและเดินทางออกนอกประเทศได้ชั่วคราว สืบเนื่องจากเหตุ ฟีฟ่าแบนรัสเซีย
นักฟุตบอลต่างชาติที่ทำงานในลีกฟุตบอลรัสเซียได้รับโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ได้ หลังจากที่ฟีฟ่ามีคำสั่งให้สามารถระงับสัญญาและออกนอกรัสเซียได้เป็นการชั่วคราว
จากสงครามรัสเซียยกทัพบุกยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อหลายภาคส่วน รวมถึงนักฟุตบอลชาวต่างชาติในรัสเซียนับ 100 คนที่ต้องการจะยุติสัญญากับสโมสรในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเวลานี้องค์กรใหญ่อย่างสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) มีคำสั่งห้ามมิให้ทีมสโมสรและทีมชาติรัสเซียลงแข่งขัน แต่ติดที่ตลาดการซื้อขายผู้เล่นได้ปิดตัวลงไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ แทงบอล
ล่าสุดหลังมีความพยายามหารือร่วมกันหลายฝ่าย ทางด้านฟีฟ่าได้มีคำสั่งพิเศษให้นักฟุตบอลต่างชาติ รวมถึงโค้ชที่มีสัญญากับสโมสรฟุตบอลในรัสเซีย สามารถระงับสัญญาได้เป็นการชั่วคราวจนจบฤดูกาลของรัสเซีย (30 มิถุนายน) และหลังจากนั้นให้ถือว่าหมดสัญญาและมีเสรีภาพในการที่จะเซ็นสัญญากับสโมสรอื่นโดยไม่ต้องรับผลกระทบหลังจากนี้
อย่างไรก็ดี ทางด้านองค์กรนักฟุตบอลอาชีพ (FIFPRO) ยังไม่พอใจกับมาตรการของฟีฟ่านัก โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่เด็ดขาดและให้ความช่วยเหลือนักฟุตบอลได้ทันท่วงทีมากพอ โดยหากจะตัดสินใจเด็ดขาดจริง ต้องให้นักฟุตบอลยกเลิกสัญญากับสโมสรได้ทันที เพราะจากมาตรการเวลานี้ การหาต้นสังกัดที่จะจ้างนักฟุตบอลเป็นการชั่วคราวเป็นเรื่องที่ยาก และภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้ามีโอกาสที่จะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกครั้ง
ทางด้านสหภาพฟุตบอลรัสเซียเปิดเผยว่าจะมีการร้องเรียนต่ออนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) เพื่ออุทธรณ์เกี่ยวกับการโดนห้ามลงแข่งในรายการระดับนานาชาติของรัสเซีย โดยนอกจากทีมชาติรัสเซียจะหมดสิทธิ์ลงแข่งในรายการฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่มาถึงรอบเพลย์ออฟ สโมสรสปาร์ตัก มอสโกยังถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันในยูโรปาลีก และเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กยังถูกถอดสิทธิ์จากการเป็นเจ้าภาพนัดชิงแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนี้ ที่จะย้ายไปจัดที่สนามสตาดเดอฟรองซ์ในกรุงปารีสแทน แทงบอลออนไลน์
ประวัติความเป็นมาของทีมชาติรัสเซีย หมีขาวแห่งดินแดนยุโรป
ฟุตบอลทีมชาติรัสเซีย (รัสเซีย: Сборная России по футболу) เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของประเทศรัสเซีย ควบคุมโดยสหภาพฟุตบอลรัสเซีย และเป็นสมาชิกของยูฟ่า ทีมชาติรัสเซียได้เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 4 ครั้ง ในปี 1994, 2002, 2014 และ 2018 นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 5 ครั้ง ในปี 1996, 2004, 2008, 2012 และ 2016 ซึ่งผลงานที่ดีที่สุดคือผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในปี 2008
ฟีฟ่าได้พิจารณาให้รัสเซียเป็นทีมชาติที่สืบทอดจากทีมชาติสหภาพโซเวียตและทีมชาติเครือรัฐเอกราช
ทีมชาติรัสเซีย ก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกในยุคจักรวรรดิรัสเซีย ในนามทีมชาติจักรวรรดิรัสเซียเล่นเกมนานาชาติครั้งแรกกับทีมชาติฟินแลนด์ ที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1912 ผลการแข่งขันเป็นฝ่ายแพ้ไป 1-2
ต่อมาได้มีการก่อตั้งเป็นสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นอาณาจักรใหญ่ ทีมชาติสหภาพโซเวียตจึงมีความแข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จมากมาย เคยได้อันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 1966 และแชมป์ยุโรป 1960
หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปในปี ค.ศ. 1991 ได้มีการแตกออกเป็นประเทศต่าง ๆ มากมาย ทีมชาติรัสเซียได้ลงเล่นเป็นครั้งแรกในกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 1992 โดยใช้ผู้เล่นเดิมจากทีมชาติสหภาพโซเวียตเป็นหลัก และเป็นฝ่ายเอาชนะทีมชาติเม็กซิโกไปได้ 2-0 ข่าวนักเตะ
ลำดับเหตุการณ์ ก่อนที่จะมาเกิดเหตุฟีฟ่าแบนรัสเซีย
เรียงลำดับเหตุการณ์เข้าแข่งขันในระดับต่างๆของทีมชาตรัสเซีย ก่อนจะเกิดเหคุการณ์ที่ ฟีฟ่าแบนรัสเซีย
- 1960 สหภาพโซเวียต ได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 1964 สหภาพโซเวียต ได้รองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 1966 สหภาพโซเวียต ได้อันดับที่ 4 ฟุตบอลโลก
- 1972 สหภาพโซเวียต ได้รองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 1988 สหภาพโซเวียต ได้รองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 1991 สหภาพโซเวียตได้มีการล่มสลายกลายเป็นหลายประเทศ ทำให้เกิดทีมชาติเครือรัฐเอกราชและทีมชาติรัสเซีย
- 1992 เครือรัฐเอกราช ตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 1994 รัสเซีย ตกรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก โดยเป็นการเข้าแข่งฟุตบอลโลกครั้งแรกในชื่อรัสเซีย
- 1996 รัสเซีย ตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 2002 รัสเซีย ตกรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก
- 2004 รัสเซีย ตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 2008 รัสเซีย ตกรอบ 8 ทีมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 2012 รัสเซีย ตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 2014 รัสเซีย ตกรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก
- 2016 รัสเซีย ตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- 2018 รัสเซีย ตกรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก ในการเป็นเจ้าภาพ
- 2022 รัสเซีย ถูกฟีฟ่าและยูฟ่าตัดสิทธิ์จากการแข่งขันฟุตบอลรอบคัดเลือก จากเหตุการณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซีย