ยักษ์ผู้ล้มยักษ์ โอกูชี่ ออนเยวู VS ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ยักษ์ผู้ล้มยักษ์1

โอกูชี่ ออนเยวู กองหลังที่เคยติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา 69 นัด มีความฝันเหมือนเด็กอเมริกันที่ชื่นชอบ “ซอคเก้อร์” คือต้องการมาเล่นในลีกยุโรป 
 
เขาย้ายมาอยู่กับเม็ตซ์ ในฝรั่งเศสและแจ้งเกิดกับ สต็องดาร์ ลีแอช ก่อนออกมาเผชิญโลกของฟุตบอลยุโรประดับอีลิต เป็นครั้งแรกกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แบบยืมตัวช่วงสั้นๆ… แน่นอนว่าไม่ประสบความสำเร็จนัก 
 
แต่ที่ทำให้ ออนเยวู กลายเป็น Talk of the town ของวงการฟุตบอลสหรัฐ ในปี 2009 คือเขาได้ย้ายไปเล่นให้กับ เอซี มิลาน ซึ่งเป็นทีมยักษ์ใหญ่ เปี่ยมประวัติศาสตร์แท้จริง 
 
เขาแทบไม่ได้ลงสนามให้กับ มิลาน เลย สถิติที่บันทึกเอาไว้คือ โอกูชี่ ออนเยวู ลงเล่นให้ทีมปีศาจแดงดำเพียง 30 นาทีในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เจอกับ เอฟซี ซูริค เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2009 
 
น่าเสียดายที่หมอนี่เจออาการเจ็บเล่นงานตอนกลับไปรับใช้ชาติจนพักไปเป็นปี อีกทั้งการเป็นกองหลัง แล้วจะมาแจ้งเกิดในลีกที่ขึ้นชื่อว่าถนัดเกมรับอย่าง กัลโช่ เซเรีย อา ก็ไม่ง่ายอยู่แล้ว 
 
หากคุณเป็นกองหลังอเมริกัน แล้วไม่เก่งจริง อย่าคาดหวังโอกาสลงเล่นให้ทีมใหญ่ใน เซเรีย อา ทว่าเหตุการณ์ที่ทำให้ ออนเยวู เป็นตัวละครที่คนในมิลาน ต้องจดจำ มันเกิดขึ้นในสนามซ้อมในวันหนึ่งเมื่อปี 2010 ดูบอลสด
 
ขณะนั้น มิลาน คว้าตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาร่วมทีม สำหรับ อิบรา แล้วเป็นคนที่เต็มไปด้วยอีโก้ และมั่นใจในตัวเองทุกอย่าง 
 
เป็นนักเตะที่น่าหมั่นไส้ พวกอ่อนแออยู่กับเขาไม่ได้ แต่เขาก็เก่งจริง และแกร่งจริงเสียด้วย 
 
ไม่เพียงแค่เก่งเรื่องเล่นฟุตบอล แต่ ซลาตัน มีร่างกายสูงใหญ่ แข็งแรง แถมฝึกเทควันโด้จนได้สายดำ เราเห็นความยืดหยุ่นของร่างกายเขาได้จากการเล่นฟุตบอลแบบผาดโผนหลายๆ ครั้ง 
 
เมื่อประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว อิบราฮิโมวิช จึงไม่จำเป็นต้องกลัวใครเลย และนอกจากจะไม่กลัวใครแล้ว คนอื่นมักจะต้องหวั่นๆ เขาด้วยซ้ำไม่เว้นแม้แต่เพื่อนร่วมทีม 
 
จินตนาการไม่ออกว่าจะมีใครกล้าฉะกับ ซลาตัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน 
 
แต่คนคนนั้นก็มีอยู่ ซึ่งก็คือ โอกูชี่ ออนเยวู นี่เอง ทายผลบอล

เหตุเกิดมาจากการซ้อม ยักษ์ผู้ล้มยักษ์ โอกูชี่ ออนเยวู VS ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ยักษ์ผู้ล้มยักษ์2

ระหว่างการซ้อมครั้งหนึ่ง ชนวนถูกจุด ซลาตัน ไปเข้าเสียบใส่ ออนเยวู อย่างอันตราย มันทำให้ปราการหลังอเมริกัน ลุกขึ้นมางัดกับซลาตัน ทันที ลงเอยด้วยการซัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อนร่วมทีมมิลานต้องกรูกันเข้ามาแยก ว่ากันว่า ซลาตัน ซี่โครงร้าวเลยทีเดียวจากเหตุการณ์นี้
 
อิบราฮิโมวิช รูปร่างสูง 195 ซม. แข็งแรงสมส่วน แถมเป็นเทควันโด้สายดำ แต่ โอกูชี่ ออนเยวู ก็สูงไล่เลี่ยกัน 193ซม. และบึกบึน 
 
ปกติเขาเป็นคนใจเย็น แต่ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาเดือดจนทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีม 
 
ในหนังสือ ซลาตัน เล่าเรื่องราวตอนนี้เอาไว้แบบนี้ ว่าในการซ้อมวันนั้น ออนเยวู พูดโอ้อวด โวยวาย จนทำให้เขาหงุดหงิดจึงพุ่งเข้าเสียบอันตราย แม้จะไม่โดน แต่เจตนาของเขามันชัดเจน 
 
“เมื่อผมลุกขึ้นและเดินจากไป ผมรู้สึกโดนอัดตรงหัวไหล่ ‘คิดผิดซะแล้วมั้ง โอกูชี่ ออนเยวู’ ผมเลยเข้าไปเฮดบัตต์ใส่เขา และเราก็ทะยานเข้าใส่กันทันที เราอยากฉีกร่างอีกฝั่งให้แหลก มันรุนแรงมากเรากลิ้งไปบนพื้น ต่อยและตีเข่าใส่กัน เราบ้าคลั่งและเดือดมาก – มันเหมือนจะฆ่ากันให้ตายเลยจริงๆ” 
 
เชื่อกันว่า หลังจาก อิบรา เข้าเสียบอันตรายทำให้ ออนเยวู น็อตหลุดเลยเข้าไปบีบคอก่อน ทำให้ อิบรา เฮดบัตต์ใส่ทันทีและการต่อสู้ก็เริ่มจากตรงนั้น 
 
ไม่แน่ใจว่าการต่อสู้ของยักษ์ 2 ตนนี้กินเวลานานเท่าไหร่ แต่เพื่อนร่วมทีมมิลาน หลายคนต้องพยายามอย่างมากในการเข้าไปแยกทั้งคู่ 
 
เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กล่าวติดตลกถึงเหตุการณ์วันนั้นเอาไว้ “ผมมีความคิดดีๆ ขึ้นมาในการพยายามเข้าไปแยกพวกเขา แต่แล้วผมโดนพวกเขาตบคนละฉาด พวกเขาสู้กัน 25 นาทีบนพื้น โดยไม่มีใครเข้าไปแยกเลย” 
 
ขณะที่ ฟลาวิโอ โรม่า นายทวารสำรองของทีม เล่าแบบนี้ “ขอบคุณพระเจ้าที่มันจบอย่างไว มันต้องใช้นักเตะทั้งกลุ่มเข้าไปแยกพวกเขา เราเองก็สุ่มเสี่ยงที่จะโดนลูกหลงเข้าเหมือนกัน” 
 
มัสซิโม่ อัมโบรซินี่ เป็นอีกคนที่เอ่ยถึงเหตุการณ์นี้ “มันเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตผมเลย มันไม่ใช่เรื่องน่าสนุกที่เห็นยักษ์น้ำหนัก 100 กิโลกรัม 2 คนต่อสู้กัน” แทงบอล
 
เมื่อถามว่าใครชนะ? ปกติแล้ว ซลาตัน แสดงตัวตนเป็นผู้ชนะอยู่เสมอ แต่หนนี้ เขายอมรับว่ามันไม่ธรรมดาจริงๆ 
 
“ไม่มีใครชนะ เพราะเขาคือสัตว์ประหลาด เขาตัวใหญ่พอๆ กับผม เขาแข็งแรงมาก และผมมองไม่เห็นว่าจะมีใครชนะอย่างชัดเจนนะ” 
 
เรื่องนี้รู้ไปถึงหูสื่อจนได้ ในที่สุด อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ รองประธานสโมสรเหลี่ยมพราวของ มิลาน ก็ออกมาแก้ตัวในทำนองว่า มันเหมือนเด็กสองคนทะเลาะกันนั่นแหละ ตอนนี้ต่างก็ทำความเข้าใจกันได้แล้ว 
 
ภายหลังต่อมาหลายปีเมื่อ ซลาตัน ย้ายไปเล่นในอเมริกากับ แอลเอ แกแล็กซี่ เขาก็ถูกสื่อกีฬาของอเมริกา ย้อนถามถึงเหตุการณ์ในวันนั้น รวมถึงเรื่องราวที่เขาเล่าเอาไว้ในหนังสือด้วย 
 
นักข่าวคนที่ได้สัมภาษณ์ ซลาตัน ภายหลังก็มีโอกาสพูดคุยกับ ออนเยวู เช่นกัน และถามว่าสิ่งที่ ซลาตัน เล่านั้น จริงเท็จแค่ไหน ? 
 
ซลาตัน เล่าให้นักข่าวฟังว่า ออนเยวู เหมือนนักมวยแชมป์รุ่นเฮฟวี่เวท ที่พุ่งเข้ามาต่อยใส่เขาเลยทีเดียว และเขาซี่โครงร้าวหลังการต่อสู้ 
 
ออนเยวู ตอบด้วยรอยยิ้มว่า จริงๆ เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เขาจดจำช่วงเวลาที่มิลานได้ดี ยกเว้นเรื่องในวันนั้น แทงบอลออนไลน์

บทสัมภาษณ์ยักษ์ผู้ล้มยักษ์ โอกูชี่ ออนเยวู

ยักษ์ผู้ล้มยักษ์3

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ ซลาตันเล่าและเขียนในหนังสือ ออนเยวู ยืนยันว่า “มีทั้งส่วนที่จริง และส่วนที่ไม่จริง” สื่อก็ถามต่อว่า “ส่วนที่ไม่จริงคือตรงไหน?” 
 
ออนเยวู ตอบว่า “นั่นแหละคือสิ่งที่คนอยากรู้กัน” และเมื่อถูกจี้ถามว่า “จริงไหมที่คุณทำเขาซี่โครงร้าว?” 
 
“ต้องไปถามเขาเอง” ออนเยวู ตอบ 
 
ซลาตัน บอกกับนักข่าวว่า หากวันนั้นไม่มีเพื่อนร่วมทีมมาช่วยแยก คนใดคนหนึ่งอาจจะถึงตายเลยทีเดียว 
 
“เขาได้บอกไหมว่าคนไหนตาย?” ออนเยวู ตอบยิ้มๆ และยอมรับว่า ในตอนนั้น เขาเองก็อายุไล่ๆ กับซลาตัน ซึ่งอิบรา น่าจะแก่กว่าปีสองปี แต่เมื่อถึงจุดนั้น มันคือเรื่องของลูกผู้ชายสองคนที่อายุหรือเรื่องอื่นๆ ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว 
 
เคยมีการให้สัมภาษณ์ของ ออนเยวู ก่อนหน้านี้หลายปี เขายอมรับว่า มันคือความผิดพลาดของทั้งคู่ 
 
“ผมพูดในสิ่งที่ผมไม่ควรพูด เขาพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด ในท้ายที่สุด ผมไม่ควรตอบสนองอย่างที่ผมทำ สุดท้ายแล้ว เราต่างก็ขอโทษกันและกัน มันเป็นเรื่องงี่เง่า และมันจบไปแล้ว” 
 
“เขายอมรับว่าเขาผิด ผมก็ยอมรับว่าผมผิด ผมไม่ควรเล่นงานเขา เขาเองก็พูดเช่นเดียวกัน เรื่องก็จบแค่นั้น” 
 
2 เดือนหลังจากเหตุการณ์นี้ ออนเยวู ก็โดนปล่อยตัวไปให้ ทเวนเต้ ยืมตัว ก่อนจะย้ายถาวรไปอยู่กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน
 
ต่อมาก็ตระเวนมาเล่นในอังกฤษกับ คิวพีอาร์, เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, ชาร์ลตัน ซึ่งก็ไม่ถือว่าประสบความสำเร็จนัก 
 
เมื่อปี 2017 เขามาแขวนสตั๊ดกับ ฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน ทีมในบ้านเกิด ด้วยวัย 35 ปี 
 
แม้ในเรื่องของฝีเท้าและผลงานเชิงฟุตบอลของเขาจะยังไม่ถึงขั้นระดับท็อป แต่เรื่องราวที่เขาฝากไว้ในฐานะคนที่ซัดกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ชนิดที่อิบรา ยอมรับ ก็ทำให้ชื่อของ โอกูชี่ ออนเยวู เป็นที่ถูกพูดถึงไปอีกนานเลยจริงๆ ข่าวนักเตะ