ฤดูกาลหน้าของแมนยูฯ และการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส

ฤดูกาลหน้าของแมนยูฯ1

บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพิ่งขยายสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไป โดยจะอยู่โยงยาวถึงปี 2026 หรือ อีก 4 ปี เป็นอย่างน้อย
นอกจากนั้นยังได้ค่าจ้างเพิ่ม แบบดับเบิ้ล จากเดิมไม่น่าถึง 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ พุ่งเป็น 240,000 ปอนด์ เป็นตัวเลขที่สูงมาก หากเทียบรายได้ตามมาตรฐาน ของผู้เล่นพรีเมียร์ลีก 
 
ในมุมของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ดูไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์อย่างใด บรูโน่ คือเสาหลักของทีม แบกรับภาระหนักมาตลอด ผลงานพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจำนวนประตู หรือ แอสซิสต์ 
 
แม้พอเปลี่ยน ราล์ฟ รังนิก มาเป็นผู้จัดการทีม ฟอร์มดร็อปลงไปบ้าง ไม่เหมือนมี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นบอส อาจด้วยเรื่องของวิธีการเล่น และ แท็คติกไม่เหมือนเดิม แต่เขายังคงเป็นคนสำคัญ โดยเฉพาะการแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเท ทำงานหนักในสนาม เห็นเลยแต่ละเกมนี่ วิ่งเพรสแดนบนเยอะกว่าใคร บางครั้งก็ต้องถอยร่นมาช่วยเกมรับอีก 
 
บางทีอาจจะพูดมากเกินไป ชอบบ่นผู้ตัดสิน แถมมีชักสีหน้า ออกอาการไม่พอใจเพื่อนร่วมทีมด้วย ทำให้ใครต่อใครเริ่มรำคาญ แทนที่จะโฟกัสกับเกม มีสมาธิให้มากที่สุด มาเสียเวลาในเรื่องไม่เป็นเรื่อง 
 
นี่คือจุดอ่อนของ บรูโน่ ที่เตะตาอย่างมาก ดูเหมือนจะแก้ยากพอสมควร ต่อให้ช่วงหลังจะต่อล้อต่อเถียงน้อยลงบ้างก็ตาม อย่างไรก็ดีหากมองในแง่บวก นั่นอาจแสดงถึงความพยายามปกป้องทีม โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าคำตัดสินไม่แฟร์  ทำให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ 
 
เมื่อเทียบข้อดี กับ ข้อด้อยแล้ว เราน่าจะเห็นอย่างแรกเยอะกว่า แฟนบอลจึงสนับสนุนให้มีการต่อสัญญา
 
เรื่องนี้ พอล เมอร์สัน อดีตกองหน้าอาร์เซน่อล ที่ปัจจุบันหันมาเป็นกูรู ร่วมแสดงความเห็น กลับเห็นต่างออกไป เขาเชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่จำเป็นต้องเร่งขนาดนั้นเลย ในเมื่อยังเหลือสัญญาอีกตั้ง 3 ปี รอดูไปก่อนก็ได้ ดูบอลสด
 
ประเด็นที่ เมอร์สัน พูดไว้อย่างน่าสนใจก็คือ ควรจะให้ผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งยังไม่เคาะชัดเจนว่าเป็นใคร ตัดสินใจเรื่องนักเตะเอง และ รวมถึงการต่อสัญญาด้วย แต่นี่ยังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำ ว่าใครจะมาคุม สโมสรกลับจัดแจงเรื่องสัญญา บรูโน่ ไปเรียบร้อย 
 
ว่าแล้ว เมอร์สัน ก็ยกตัวอย่างขึ้นมาให้ฟังกัน สมมุติได้ทาง เอริก เทนฮาก มาเป็นกุนซือ ในฤดูกาลหน้า ด้วยวิธีการทำทีม และ แนวทางแตกต่างออกไป อาจไม่ใช้ บรูโน่ เป็นศูนย์กลางเกมรุกเหมือนที่คุ้นเคยกัน 
 
อย่าลืมว่า เทนฮาก คือกุนซือที่ปลุกปั้น ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จนกลายเป็นนักเตะดัง ก่อนจะย้ายมา แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วล้มเหลวไม่เป็นท่าอย่างที่เห็น 
 
เป็นไปได้สูงมากที่ ดอนนี่ จะถูกดึงมาใช้งาน ไม่ปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวอีกต่อไป ในเมื่อมีคู่มือการใช้อย่างดี มาตั้งแต่ร่วมงานด้วยกันที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แล้ว 
 
หลายคนมองว่า ดอนนี่ ไม่อาจแทรกมาเป็นตัวจริงได้ ส่วนหนึ่งติด บรูโน่ นี่แหล่ะ ตำแหน่งทับกันมาก แล้วหากจะถอยไปเล่นมิดฟิลด์เบอร์ 6 ก็ไม่เหมาะอีก ทายผลบอล

ฤดูกาลหน้าของแมนยูฯ กับการจัดการในสโมสร

ฤดูกาลหน้าของแมนยูฯ2

ดังนั้นสโมสรควรให้สิทธิ์ผู้จัดการทีม เลือกเอาเลยว่าเห็นสมควรอย่างไร เพราะไม่อย่างนั้นก็เข้าข่ายเดิมๆอีก
เท่าที่ผ่านมากุนซือหลายต่อหลายคน เข้ามาทำงานแล้วต้องเจอเหตุการณ์ในทำนองนี้ 
 
ฝ่ายบริหาร จัดการเรื่องซื้อขายผู้เล่นเองส่วนใหญ่ แล้วนำมาให้กุนซือได้ใช้งาน ซึ่งตามหลักเป็นจริงแล้ว คนซื้อกับคนใช้มันต้องคนเดียวกัน ไม่ใช่แยกกันอย่างนี้ 
 
เราได้ยิน หลุยส์ ฟานกัล โอดครวญมาแล้ว ลิสต์รายชื่อนักเตะที่อยากได้ไปให้บอร์ด แทบไม่ได้รับการตอบสนองเลย อย่างนี้หมายความว่าอย่างไรกัน 
 
เอ็ด วู้ดเวิร์ด มักจะตัดสินใจเองว่าซื้อใคร หลายต่อหลายดีลล้มเหลว น่าผิดหวัง ทั้งที่ทุ่มงบประมาณไปมหาศาล ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม 
 
หาเงินเก่งก็จริง สร้างรายได้ให้สโมสร ซึ่งนั่นถูกต้องแล้ว คือบทบาทของหัวหน้าฝ่ายบริหาร แต่เมื่อคุณไม่ได้เชี่ยวชาญลึกซึ้งเรื่องฟุตบอล ก็ควรปล่อยให้ผู้จัดการทีม และ ทีมงานที่เกี่ยวข้อง บริหารผู้เล่นเอาเอง แล้วคอยสนับสนุนตามความเหมาะสม นั่นแหล่ะ คือสิ่งที่ควรทำ แทงบอล
 
จำได้ว่า ปาทริช เอวร่า เคยอัพคลิปโจมตีการทำงานบอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด แม้จะไม่เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นใคร 
 
ไม่มีความเจนจัดเรื่องนักเตะไม่พอ แทนที่จะฟังคนข้างใน แต่นี่ไปเชื่อคนนอก โดยคิดว่าตัวเองเจ๋งมากพอ กุมอำนาจไว้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 
 
โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ไม่ต่างกันหรอก เผชิญเหตุการณ์เช่นเดียวกับ ฟานกัล ถึงขั้นบ่นออกสื่อตั้งแต่อยู่ในตำแหน่งแล้ว ขอนักเตะที่อยากได้ไป แต่แทบไม่เคยได้มาเลย แต่ที่ไม่เคยต้องการ กลับไปซื้อหามาให้ แล้วมันจะทำทีมให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไรกัน 
 
แย่กว่าก็คือ แทนที่จะรีบหาผู้อำนวยการฟุตบอล ซึ่งมีความรู้เรื่องนักเตะอย่างจริงจัง ยังถ่วงเวลาเรื่อยมา คนเก่งๆในตำแหน่งนี้มีเพียบ สโมสรก็มีเงินจ้าง ทว่าเราได้ยินข่าวลือสารพัด โยงคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย แล้วระดับท็อปของวงการ ก็ไม่มีใครมาเลยสักคน 
 
เพราะสุดท้ายไปแต่งตั้งคนในอย่าง จอห์น เมอร์เท่อห์ มารับตำแหน่งผู้อำนวยการคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร แทงบอลออนไลน์

การแต่งตั้งจอห์น เมอร์เท่อห์ จะส่งผลต่อ ฤดูกาลหน้าของแมนยูฯหรือไม่?

ฤดูกาลหน้าของแมนยูฯ3

การแต่งตั้ง จอห์น เมอร์เท่อห์ นั้นเหมือนเป็นการตั้งแก้เก้อมากกว่า ลดกระแสวิจารณ์ และ เสียงด่าของแฟนบอล รู้กันอยู่ว่า ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรใหญ่ นอกจากมองทะลุปรุโปร่ง เกี่ยวกับนักเตะ สายตาแหลมคม ดุจพญาเหยี่ยว ยังต้องมีคอนเน็กชั่น หรือ เครือข่ายขยายวงกว้าง 
 
ทางที่ดีควรเป็นพวกต่างชาติ ซึ่งมีชอยส์พอสมควรเลย สามารถไปจิ้มเอามาดูแลงานด้านนี้ ถึงแม้ เมอร์เท่อห์ อาจจะอยู่กับสโมสรมานาน ตั้งแต่ปี 2013 รวมแล้วเกือบ 10 ปี รู้จักตื้นลึกหนาบางของ แมนฯ ยูไนเต็ด พอสมควร 
 
แต่นี่ไม่ใช่งานที่คู่ควรเลย เอาแค่เรื่องสายสัมพันธ์ก็สอบตกแล้ว เขาไม่ได้เป็นที่รู้จักเลยสักนิด ลำพังแค่ในอังกฤษก็ยังดูแคบด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะเข้าหาใครแบบง่ายๆได้บ้าง 
 
หากไม่มีเงินทุนก้อนใหญ่ บอกเลยว่าโอกาส แมนฯยูไนเต็ด จะประสบความสำเร็จ คว้าแข้งคุณภาพได้มาจริง มันเป็นเรื่องยากมากๆ 
 
ถ้าคุณจะเอา ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มาดูแลตรงส่วนนี้ ก็ต้องให้ปรึกษาหรือทำงานร่วมกับ ผู้จัดการทีมคนใหม่เลย หรือ ราล์ฟ รังนิก ซึ่งจะลงจากตำแหน่ง ไปนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษา ก็น่าจะเหมาะเลย โดยเฉพาะคอนเน็กชั่นในเยอรมัน ที่กว้างขวางอย่างไม่ต้องสงสัย 
 
เพราะหากยังไม่แก้ไข ปล่อยให้งานรันในลักษณะเดิม ปัญหาเก่าๆก็คงต้องเกิดขึ้นอีก แก้อะไรไม่ได้หรอก ความผิดพลาดที่เจอ ควรนำมาเป็นบทเรียน สรุปให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดซ้ำซากขึ้นมาอีก คนซื้อควรได้ใช้เอง และ นั่นต้องให้ผู้จัดการทีมเป็นคนจัดการทั้งหมด ข่าวนักเตะ