ลิเวอร์พูลเฉือนแมนฯซิตี้ เข้าชิง เอฟเอ คัพ 

ลิเวอร์พูลเฉือนแมนฯซิตี้1

“หงส์แดง” ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำผลงานได้ตามเป้า หลังระเบิดฟอร์มเบียด แมนฯ ซิตี้ 3-2 จากผลงานของ ซาดิโอ มาเน่ เหมาคนเดียว 2 ประตู พาทีมผงาดเข้าชิงชนะเลิศ รอพบ เชลซี หรือ คริสตัล พาเลซ วันที่ 14 พ.ค. ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน 

ศึก เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ที่สนาม เวมบลี่ย์ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ รองจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก อย่าง ลิเวอร์พูล ดูบอลสด

โดยทั้งสองทีม ต่างเพิ่งลงเล่นในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์มา ทว่าลูกทีมของ เป๊ป ดูจะน่วม และมีปัญหาเรื่องอาการเจ็บ และความฟิตของผู้เล่น จากเกมบุกยันเสมอ แอต.มาดริด 0-0 ซึ่งวันนี้ จัดสามแนวรุกอย่าง กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง และแจ็ค กรีลิช โดยถอย ฟิล โฟเด้น เชื่อมกลาง ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ มีชื่อเป็นสำรอง

ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ทีมที่ฟิตสมบูรณ์ หลังพักตัวหลักในเกมยุโรป ที่แอนฟิลด์เกือบยกทีม จัดหน้าสามเช่นกันทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และหลุยส์ ดิอาซ ล่าตาข่าย

เปิดฉากมา ใส่เกมบุกแลกกันเลย นาทีที่ 4 “เรือใบสีฟ้า” ได้บอลขึ้นมาทางขวา ชูเอา กานเซโล่ หักมาในกรอบ ให้ แจ็ค กรีลิช ตะบันด้วยขวา แต่ยังดีที่มีแข้งหงส์แดง ตามมาบล็อคได้ทัน

แต่ว่า นาทีที่ 10 เดอะ ค็อป ได้เฮกันลั่นทั้ง เวมบลี่ย์ หลัง ลิเวอร์พูล ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดมาให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ โถมมาโขกเข้าไปตุงตาข่าย เป็นเม็ดที่ 3 ใน 3 เกมล่าสุดที่ลงตัวจริงหลังเพิ่งโขกสองตุงล่าสุดมาในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เบนฟิก้า สองเกมติด

สถานการณ์ของลูกทีม เป๊ป แย่หนักไปอีก เมื่อมาเสียเม็ดที่สองให้ “หงส์แดง” ในนาที 17 จากความผิดพลาด ของ แซค สเตฟเฟ่น ที่โดน มาเน่ วิ่งมาเพรส จนนายด่านเรือใบออกบอลในกรอบ 6 หลาตัวเอง จนโดน มาเน่ พุ่งสไลด์ขวางบอลเปลี่ยนทางเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง แมนฯ ซิตี้ 2-0

รูปเกมของ แมนฯซิตี้ ไม่ดีขึ้นเลย จนถึงตอนนี้ยังยิงไม่เข้ากรอบ แถมช่วงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ต้องมาสังเวยเม็ดที่สามให้ “หงส์แดง” นำโด่ง 3-0 จากจังหวะการต่อบอลที่สวยงามของ “หงส์แดง” ก่อนที่ ติอาโก้ จะตักให้ มาเน่ เอี้ยวตัววอลเลย์บอล พุ่งติดไซด์ก้อยเบียดโคนเสาแรก เข้าไปอย่างสวยงาม

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-3 ทายผลบอล

ลิเวอร์พูลเฉือนแมนฯซิตี้ เข้าชิง เอฟเอ คัพ (ครึ่งหลัง)

ลิเวอร์พูลเฉือนแมนฯซิตี้2

เปิดฉากครึ่งหลังเพียง 2 นาที “เรือใบสีฟ้า” ตีไข่แตกไล่มา 1-3 เป็นจังหวะตัดบอลทางขวา แฟร์นานดินโญ่ พาแหวกขึ้นมาไหลเข้าเขตโทษถึง กาเบรียล เชซุส สอดมาเก็บพาตัดเข้าในไหลถวายพานให้ แจ็ค กรีลิช ซัดเสียบเสาแรกเข้าไปไม่พลาด ต่อมานาทีที่ 53 แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่อง ราฮีม สเตอร์ลิง ดีดเร็วเข้าช่องให้ กาเบรียล เชซุส หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางขวากระชากเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงช้าโดน เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ตามมาบีบซัดไปติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์ 70 นาทีผ่าน “เรือใบสีฟ้า” พลาดโอกาสทองคราวนี้จากบอลทางซ้าย แจ็ค กรีลิช แทงช่องสุดงามให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเดี่ยวแต่จังหวะล่อเป้าซัดไม่ดีไปติดเท้า อลิสซอน เบ็คเกอร์ เด้งหลุดเสาไกลนิดเดียว แทงบอล 

2 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล หวิดได้เฮบ้างจากความผิดพลาดของ โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ โขกคืนหลังเบาโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สอดมาฉกยกข้าม แซค สเตฟเฟ่น หลุดเข้าข้างตาข่ายเหลือเชื่อ 

ช่วงท้ายเกมเปิดแลกกันสนุก ลิเวอร์พูล ได้เสียวสองครั้งจากจังหวะยิงของ หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เสียดายไม่หนีตัว แซค สเตฟเฟ่น ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้ไม่พลาด 

นาทีที่ 90 “เรือใบสีฟ้า” ไล่มา 2-3 จนได้เป็นบอลยาวทิ้งออกขวาถึง ริยาด์ มาห์เรซ สอดตัดหน้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้ช่องซัดไปติด อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไหลย้อนไปเสาไกลเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซ้ำเข้าไปไม่พลาด 

ช่วงทดเจ็บ แมนฯ ซิตี้ เกือบได้เฮ แฟร์นานดินโญ่ และ ริยาด์ มาห์เรซ เก็บตกในเขตโทษเสียดายจังหวะซัดไม่ดีเหินข้ามคานน่าผิดหวัง ส่วนทาง “หงส์แดง” ดักสวนกลับลุ้นปิดกล่องจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่ก็ยังไม่ดีพอผ่าน แซค สเตฟเฟ่น 

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ลิเวอร์พูล 3 แทงบอลออนไลน์

รายชื่อผู้เล่นในเกมลิเวอร์พูลเฉือนแมนฯซิตี้ 3-2

ลิเวอร์พูลเฉือนแมนฯซิตี้3

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ในเกม ลิเวอร์พูลเฉือนแมนฯซิตี้
 
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : แซค สเตฟเฟ่น – ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นานดินโญ่ (กัปตันทีม), ฟิล โฟเด้น – กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง, แจ็ค กรีลิช 
 
สำรอง : เอแดร์ซอน, ริยาด์ มาห์เรซ, โรเมโอ ลาเวีย, รูเบน ดิอาส, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี, เลียม ดีแล็ป, อายเมริค ลาปอร์กต์ 
 
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
 
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (กัปตันทีม), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกานตาร่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ 
 
สำรอง : ควิวีน เคลเลเฮอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เคอร์ติส โจนส์, คอสตาส ซิมิคาส, โจ โกเมซ, โฌเอล มาติป, เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดีโอโก้ โชต้า 
 
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ 
 
ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์ ข่าวนักเตะ