เครื่องจักรสีแดง “Red Machine” พร้อมล่าแชมป์
 
เครื่องจักรสีแดง1
 
เครื่องจักรสีแดง พร้อมล่าแชมป์ทุกแชมป์ กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเมามัน ลุ้นระทึกกันทุกวินาทีกับการไล่ล่าแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก โดยทีม เครื่องจักรสีแดง หรือ ลิเวอร์พูลนั้น อยู่ในอันดับที่ 2 ของตาราง ตามหลังทีมนำอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาของความเมามันนั้น กลับต้องหยุดให้เสียอารมณ์กันซักระยะ เนื่องจากมีโปรแกรมทีมชาติรออยู่ ซึ่งในช่วงโปรแกรมทีมชาติอย่างนี้ นักเตะในทีมบางคนที่ไม่ถูกเรียกติดธงไปรับใช้ ต่างได้ไฟเขียวจากต้นสังกัดให้พักผ่อนไปพลางๆก่อน ส่วนพวกที่มีชื่อต่างก็ต้องกรำศึกกันต่อไป แทบไม่มีเวลาได้หายใจหายคอกันสักเท่าไร พอกลับมาแล้วก็ต้องลุยงานโหดหินกันอีกในโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
 
จากสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ถูกจับตาอย่างมาก เมื่อเส้นทางสู่ 4 แชมป์ประวัติศาสตร์ของพวกเขายังคงราบรื่น ไปได้สวยอย่างยิ่ง
16 นัดหลังสุดในทุกรายการ พวกเขาแพ้เพียงแค่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกสองต่ออินเตอร์ มิลาน แต่ก็ยังดีพอสำหรับผ่านเข้ารอบอยู่ดี
ที่เหลือกวาดชัยชนะ 14 เกม โดยเสมออีก 1 กับเชลซีในนัดชิงลีกคัพ ก่อนจะแม่นเป้าซัดจุดโทษ คว้าแชมป์แรกของซีซั่นไปครอบครอง ดูบอลสด
 
เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์อยู่บ่อยๆ ไม่ได้คาดหวังจะต้องรวบมาหมดทุกโทรฟี่ เพียงแต่ขอทำงานหนักเข้าไว้ แล้วจากนั้นค่อยมาดูกัน
อย่างน้อยเพื่อไม่โยนความกดดันให้ลูกทีม ปล่อยให้ทุกคนสนุกกับเกม มากกว่าจะมาตึงเครียด เพราะห่วงเรื่องแชมป์มากเกิน
ช่วงหลังเราเห็นได้ชัดว่า ลิเวอร์พูลทำได้ตามเป้าหมายเสมอ นั่นคือเก็บชัยชนะไม่เว้นเลย แม้บางนัดจะไม่ได้ฟอร์มดีอะไรเท่าไร ก็ยังทำสำเร็จ
สิ่งที่ชัดเจนก็คือ ประสิทธิภาพแนวรุกของหงส์แดง ซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลายทางมิติ คล็อปป์ มีผู้เล่นให้เลือกเยอะมาก แล้วแต่จะจัดสรรเอาตามความเหมาะสม ทายผลบอล

การเสริมทีมของคล็อปป์ ก่อกำเนิด เครื่องจักรสีแดง ยุคใหม่

เครื่องจักรสีแดง2

 
การเสริมทีมของคล็อปป์ โดยการได้ หลุยส์ ดิอาซ มาเสริมอีกราย ทำให้ทีมกลายเป็น เครื่องจักรสีแดง ยุคใหม่ เรียกว่า ดิอาซ แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย มาถึงใช้งานทันที ประเภทเปิดปุ๊บติดปั๊บ
 
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล เปิดอก หลุยส์ ดิอาซ ทำผลงานในช่วงแรกๆ ได้ดีกว่าที่คิด พร้อมบอกว่าจนถึงตอนนี้พยายามให้ ดิอาซ เล่นตามธรรมชาติของตัวเองอย่างเต็มที่ จนมีส่วนทำให้ดาวเตะชาวโคลอมเบียมีผลงานที่น่าประทับใจ“หงส์แดง” ให้ความสนใจในตัว ดิอาซ มานานแล้ว โดยเป็นที่เชื่อกันว่าตอนแรกพวกเขาจะดึงแข้งวัย 25 ปีมาร่วมทัพหลังจบฤดูกาล 2021-22 แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนแผนเป็นดึงเจ้าตัวมาเสริมแกร่งในตลาดช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาเลย และจนถึงตอนนี้ดาวเตะชาวโคลอมเบียก็ทำผลงานได้น่าประทับใจมากๆ
 
คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์กับ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดีว่า “ปกติแล้วคุณไม่คาดหวังว่านักเตะแบบนี้จะสามารถทำเรื่องมหัศจรรย์ได้ในทันที แต่ตอนนี้มันก็ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ห่างจากการทำผลงานระดับนั้นได้เลย ก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานนะ”“การที่คุณจะเซ็นสัญญากับนักเตะคนไหนน่ะมันก็ต้องมีเหตุผลมารองรับด้วย ซึ่งเหตุผลที่เราเซ็นสัญญากับเขาก็คือเขามีคุณภาพที่ดี และเรื่องที่เกี่ยวกับแนวทางการเล่นของเขา กรณีของ หลุยส์ น่ะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้เห็นเขาครั้งแรกเราก็รู้ทันทีเลยว่าเขาจะเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว ปกติแล้วมันจะทำอย่างนั้นได้ยาก แต่เขาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก (กับการมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล) นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตอนนี้เรามีนักเตะที่มีความมั่นใจมากๆ อย่างเขาอยู่ในทีม”“ก่อนหน้านี้เขาทำผลงานได้ดีกับ ปอร์โต้ รวมถึงเล่นได้ดีกับทีมชาติโคลอมเบีย ดังนั้นเขาเลยมาอยู่กับเราในสภาพที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่สิ่งที่เราพยายามทำก็คือแผนการเล่นของเราจะไม่ทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจแบบนั้นไป เราไม่ได้ไปจ้ำจี้จ้ำไชกับเขาว่าเขาต้องทำแบบนั้นหรือต้องทำแบบนี้ เราแค่อยากให้เขาเล่นไปตามธรรมชาติของตัวเอง” แทงบอล
 
ในขณะที่ผู้เล่นอื่นๆ ฟอร์มก็ไม่ได้ดร็อปลงเลย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งยังมีปัญหาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ ยืดเยื้อมาพักใหญ่ ตกลงกันไม่ได้ กลับไม่ได้นำเรื่องเหล่านั้นมารบกวนยามลงเล่นเลย
ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน้ ที่โดนแย่งตำแหน่งตัวจริงก็ไม่ได้กระทบต่อสภาพจิตใจเลย ยามลุกจากม้าสำรองลงไปแทนคนอื่น ทำได้ดีเสมอ บทบาทใหม่เหมือนซูเปอร์ซับเข้าไปทุกที
ซาดิโอ มาเน่ กับ ดีโอโก้ โชต้า ก็รักษาความสม่ำเสมอไว้ได้ โดยเฉพาะรายหลังที่เฉลี่ยแล้วผลงานแจ่มสุด หากนับจำนวนนาทีที่อยู่ในเกมกับประตูที่ยิงได้
นี่ยังไม่นับ ทาคูมิ มินามิโนะ ซึ่งซัลโวสูงสุดในถ้วยเอฟเอคัพอีก แต่น่าเสียดายไม่ค่อยได้โอกาสในลีกสักเท่าไร
ส่วนแนวรับไม่ต้องพูดถึง เมื่อคุณมีอาวุธหนักอยู่ที่การเข้าทำจากกลุ่มผู้เล่นเกมรุก หากรับเหนียวแน่นมั่นคง นั่นหมายถึงตีตราจองชัยชนะไว้ได้เลย
เฟอร์กิล ฟานไดค์ รับผิดชอบหลังบ้าน ไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้บางนัดมีอาการล้าบ้าง แทบไม่ได้พักเลย แต่ก็ฟื้นกลับมาในระยะเวลาสั้นๆ
นอกจากความสามารถครบเครื่องเรื่องป้องกันประตู ความเป็นผู้นำก็สูงด้วย ปลอกแขนกัปตันศักดิ์สิทธิ์เสมอเมื่ออยู่กับเขา
ในขณะที่ โจเอล มาติป ก็ยกระดับอย่างน่าทึ่ง หากร่างกายฟิตขึ้นมา ยากจริงๆที่จะมีใครผ่านไปได้
กองหลังแคเมอรูนเพิ่งคว้าผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ลีกมาได้ ท่ามกลางความเซอร์ไพรส์ ทว่าหากได้ดูผลงานในช่วงหลัง ไม่แปลกอะไรหรอก ทั้งทางดีและแข็งแกร่งมั่นคง มีกองหลังอย่างนี้เพื่อนฝูงก็อุ่นใจได้
อิบราฮิมา โกนาเต้ มีการปรับตัวบ้างในช่วงแรกๆ อายุยังน้อย ไม่คุ้นเคยฟุตบอลอังกฤษอีก พอเข้าที่เข้าทางก็ทำงานร่วมกับ ฟานไดค์ ได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่เกี่ยง หากตัวเองต้องเป็นอะไหล่ชั้นดี ยังเหลือเวลาสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาอีกมาก แทงบอลออนไลน์
 
ความน่าสนใจคือ คล็อปป์ สามารถหลอมหลวมให้ทีมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างดี ทีมสปิริตแข็งแกร่งเหลือเกิน เราแทบไม่ได้ยินข่าวลือเรื่องภายในทีมเกิดปัญหาของลิเวอร์พูลเลย
ช่วงที่ มาเน่ ดูเหมือนระหองระแหงกินแหนงแคลงใจกับ ซาลาห์ ซึ่งอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง แต่เคลียร์ให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ซึ่งสองคนนี้อาจไม่ได้สนิทกันส่วนตัว ทว่าร่วมงานกันได้ไร้ปัญหา เราได้เห็นทั้งคู่สวมกอดกันแนบแน่นในแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์นัดชิงมาแล้ว สยบข่าวลือได้มิดชิด ไม่มีร่องรอยความขัดแย้ง กาวใจหรือคนที่ช่วยประสานรอยร้าว เป็นใครไม่ได้หรอกนอกจาก คล็อปป์ นี่แหล่ะ นอกจากเป็นเจ้านายแล้ว บทบาทในทีมอีกด้านของ คล็อปป์ เป็นเหมือนพี่ชายที่คอยให้คำปรึกษาหรือแนะนำน้องๆ ซึ่งก็คือนักเตะทุกคนนั่นแหล่ะ
 

คล็อปป์ ผู้เอาใจใส่ในทุกๆรายละเอียดของ พลพรรคเครื่องจักรสีแดง

เครื่องจักรสีแดง3

 
เจอร์เก้น คล็อปป์นั้นดูแลเอาใจใส่พลพรรค เครื่องจักรสีแดง อย่างใกล้ชิด คอยสังเกตว่าใครขาดเหลืออะไร มีปัญหาตรงไหน จากนั้นพร้อมยื่นมือให้ความช่วยเหลือทันที
 
อย่างเคสของ แซร์ดาน ชากิรี่ ซึ่งตอนย้ายมาใหม่ๆ แทบไม่พูดคุยสุงสิงกับใครเลย แยกตัวไปนั่งคนเดียวเสมอ แม้กระทั่งในห้องแต่งตัว ยามเพื่อนฝูงสนุกสนานกันเมื่อทีมได้รับชัยชนะ คล็อปป์ จึงพูดกับแข้งอาวุโสในทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คอยเข้าไปเลียบเคียงถามหน่อย เกิดปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า ชวนไปกินข้าว ทำกิจกรรมอื่นๆบ้าง เพื่อ ชากิรี่ จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่ได้มีใครทอดทิ้ง แม้สุดท้ายดาวเตะสวิสจะไม่ได้อยู่กับทีมต่อ แต่ยืนยันว่า คล็อปป์ พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ไม่เคยมองข้ามนักเตะคนไหนเลย
 
ด้วยสไตล์เฮฟวี่เมทัล ซึ่งดูหนักแน่นดุดัน บางครั้งมีความเกรี้ยวกราด แต่ลึกลงไปข้างในกลับใส่ใจรายละเอียดและมีความอ่อนไหวอย่างน่าทึ่ง
อย่าได้แปลกใจเลยที่ทางเดินของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้จะสวยหรู เบื้องหลังคือการทำงานหนักทั้งนั้นแหล่ะ
อย่าลืมตอนที่เสีย ซาลาห์ , มาเน่ และ นาบี เกอิต้า ไปทำศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ หลายคนกังวลว่าลิเวอร์พูลอาจกระทบหนักได้ โดยเฉพาะการผลิตประตู
คล็อปป์ กับลูกทีมเอาตัวรอดได้อย่างสวยงาม ผู้เล่นคนอื่นทดแทนได้ในระดับหนึ่ง บวกกับการวางแผนต่างๆที่รัดกุมและถูกทาง จึงมีผลลัพธ์น่าพอใจ ข่าวนักเตะ
 
แต่หลังพ้นโปรแกรมทีมชาติ จะเป็นอีกห้วงเวลาทั้งสำคัญและท้าทายอย่างมากของ คล็อปป์ ลองไปดูกันสักหน่อย
หลังเยือนวัตฟอร์ดในเกมลีก ต่อด้วยบุกเบนฟิก้าในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกแรก งานช้างรออยู่
16 เมษายน : รอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นกันที่เวมบลีย์
19 เมษายน  : ดวลแดงเดือดกับแมนฯยูไนเต็ดที่แอนฟิลด์
24 เมษายน :  ทำศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ที่แอนฟิลด์ โดยสถานการณ์ของเอฟเวอร์ตันหลังพิงฝา
30 เมษายน : เยือนนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค โดยเจ้าถิ่นดีวันดีคืน
เห็นแล้วเดอะ ค็อปทั้งหลายหวาดหวั่นไม่น้อยเลย ถ้าผ่านไปได้อย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้ การจะมองไกลถึง 4 แชมป์ย่อมไม่ใช่เรื่องเกินเลยความจริง
มาดูกันว่าลิเวอร์พูลในซีซั่นที่พร้อมแบบสุดๆ จะบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้หรือไม่