เชลซีในยุคโรมัน อับราโมวิช จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของสิงโตน้ำเงินคราม

เชลซีในยุคโรมัน1

ในปี 1982 เคน เบทส์ นักธุรกิจชาวลอนดอน ซื้อสโมสรเชลซี ในราคาเพียง 1 ปอนด์!!
 
ขณะนั้นเชลซีมีปัญหามากมาย หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จในยุค 70s พวกเขาก็ตกลงไปอยู่ในดิวิชั่น 2 ติดต่อกันหลายฤดูกาล
 
เป็นหนี้ก้อนโต้ สนามอยู่ในสภาพทรุดโทรม มีปัญหาแฟนบอลฮูลิแกน จริงๆ แล้ว กลุ่ม “เชลซี เฮ้ด ฮันเตอร์” ของเชลซี ถือเป็นตัวเอ้ของวงการฮูลิแกนเลย 
 
เบทส์ พยายามปรับปรุงทีมมาตลอดนับแต่นั้น เขาซื้อสิทธิ์ในการครอบครองส่วนหนึ่งของสแตมฟอร์ด บริดจ์ มาจากกลุ่ม มาร์เลอร์ เอสเตทส์ 
 
พอมาถึงยุค 90s เชลซี ก็เริ่มกลับมาแข็งแกร่ง กลายเป็นทีมในพรีเมียร์ ลีก ยิงยาวมาตลอด 
 
ทว่าด้วยการลงทุนเสริมทัพ ปรับปรุงสนามของ เคน เบทส์ ทำให้เชลซีเองก็กลับมามีหนี้สินอีกครั้ง สิงห์บลูส์ ในยุคครึ่งหลังของทศวรรษที่ 90s มักทุ่มค่าจ้างแพงๆ ดึงเอาสตาร์จากภาคพื้นยุโรปมาร่วมทีม พวกนี้โดยมากเลยยุคพีคไปแล้ว แม้จะชื่อเสียงดี แต่กินค่าจ้างแพง 
 
คนที่ได้ผลจริงๆ มีไม่กี่คน ที่อยู่จนกลายเป็นหัวใจของทีมอย่างเช่น จานฟรังโก้ โซล่า และ มาร์กแซล เดอไซญี่ 
 
เชลซี คือสิงห์บอลถ้วย พวกเขาได้แชมป์บอลถ้วยโน่นนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ถึงขั้นลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก จริงๆ จังๆ เลย แม้จะมีขุมกำลังที่ดีในทีมหลายคน กระทั่งจุดเปลี่ยมาถึงในฤดูกาล 2002/03 ยุคที่ เคลาดิโอ รานิเอรี่ คุมทัพ ดูบอลสด
 
หลังจบฤดูกาลนั้น เศรษฐีหนุ่มที่แทบไม่มีใครบนเกาะอังกฤษรู้จักอย่าง โรมัน อับราโมวิช ก็เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร 
 
ซัมเมอร์ปี 2003 คือจุดเปลี่ยนสำคัญยิ่งของเชลซี ที่ส่งผลให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวแถวอย่างเต็มภาคภูมิ แทบไม่มีอะไรด้อยกว่าขั้วอำนาจเดิมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล เลย ในบางแง่มุม พวกเขาอาจจะแซงไปแล้วด้วยซ้ำ 
 
หนุ่มที่มีเงินมหาศาลระดับ 3.4 พันล้านปอนด์ ในตอนนั้น อายุเพียง 36 ย่าง 37 ปี แม้คนภายนอกอาจจะรู้จักเขาน้อย แต่เวลานั้น โรมัน คือมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับ 2 ของรัสเซีย และติดท็อป 20 ของโลก ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes 
 
ความร่ำรวยของเขา เติบโตมาอย่างรวดเร็วเฉกเช่นเดียวกับเศรษฐีใหม่ของรัสเซียในตอนนั้น หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย 
 
บอริส เยลต์ซิน ต้องการการลงทุนเปิดให้คนใกล้ชิดและเครือข่ายเข้ามาทำเงินจากการนำเอารัฐวิสาหกิจไปแปรรูปต่างๆ เรียกว่ามีคอนเนคชั่น และใจถึงสามารถรวยได้ 
 
ซึ่ง อับราโมวิช ก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันที่ใหญ่สุดแห่งหนึ่งของรัสเซีย มีหุ้นส่วนในโรงงานอลูมิเนี่ยม และในสายการบิน แอโร่ฟลอต 
 
เขาคือคนใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซียมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะในยุคของวลาดิเมียร์ ปูติน ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ก่อน ปูติน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารประเทศในปี 2000 ทายผลบอล

เชลซีในยุคโรมัน เส้นทางการเงิน และการเฟ้นหาผู้จัดการทีมที่ใช่

เชลซีในยุคโรมัน2

เส้นทางการเงินของ โรมัน จึงอาจจะไม่ขาวสะอาดนักตามมุมมองมาตรฐานสากล และโดยเฉพาะในอังกฤษ
 
ซึ่งตอนนั้น พรีเมียร์ ลีก ยังไม่มีมาตรการตรวจสอบที่มาอันเข้มงวดสำหรับการเงินของคนที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรฟุตบอลที่นี่ 
 
มีรายงานระบุว่าหนึ่งในชนวนที่ทำให้ ปูติน ต้องการซื้อทีมฟุตบอลในอังกฤษคือการที่เขาได้มาชมเกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เรอัล มาดริด

เกมนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4-3 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ โรนัลโด้ R9 ทำแฮททริกต่อหน้าแฟนบอลที่นี่

หนึ่งในบุคคลที่สนิทกับ อับราโมวิช และมีส่วนทำให้อับราโมวิชตัดสินใจได้ก็คือ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ซึ่งขณะนั้นเป็นกุนซือทีมชาติอังกฤษ 
 
สเวน คือหนุ่มใหญ่เจ้าสำราญ เมื่อมองดูประวัติการทำงานของเขา เขาคือโค้ชที่เก่ง แต่ก็เป็นมือปืนรับจ้างชั้นเยี่ยม แมนฯ ซิตี้ ในยุคของทักษิณ ชินวัตร ก็เคยจ้างเขาคุมแมนฯ ซิตี้ มาแล้ว 
 
โรมัน อับราโมวิช ต้องการซื้อสโมสรฟุตบอลทั้งในรัสเซีย และในอังกฤษ มีรายงานว่าเขาสนใจตั้งแต่ พอร์ทสมัธ จนไปถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย แต่มันไม่ง่ายนัก แทงบอล 
 
เชลซี ซึ่งขณะนั้นกำลังเป็นหนี้ ภายใต้การบริหารงานของ เคน เบทส์ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เบสอยู่ในลอนดอน ทำให้ โรมัน สนใจ แต่เขาก็ลังเลระหว่าง เชลซี กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 
 
สเปอร์ส ตอนนั้นเพิ่งเปลี่ยนมือเช่นกัน สิทธิ์การเป็นเจ้าของทีมเพิ่งตกมาอยู่ในมือกลุ่ม ENIC และ แดเนียล เลวี่ เพิ่งมาเป็นซีอีโอ ได้แค่ราวปีเศษๆ 
 
สเวน โกรัน อีริคส์สัน เล่าถึงตอนที่เขามีส่วนให้คำปรึกษากับ เสี่ยหมี ในการเลือกมาเทคโอเวอร์เชลซี แทนที่จะเป็นสเปอร์ส 
 
“ในปี 2003 โรมัน อยากซื้อสโมสรในรัสเซีย ผมไปกับเขาด้วย ไปถึงมอสโก เพื่อตรวจดูสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ของ 2-3 สโมสร แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ บอกว่าเขาอยากซื้อสโมสรในลอนดอน” 
 
“เขากำลังชั่งใจว่าจะเอา เชลซี หรือ ท็อตแน่ม เขาโทรหาผมและบอกว่า ‘ผมควรซื้อทีมไหน?” 
 
“ผมตอบไปว่า ถ้าคุณต้องการคว้าแชมป์ลีกละก็ เลือกเชลซี เพราะคุณต้องเปลี่ยนทีมแค่ครึ่งทีม ในตอนนั้นกับ สเปอร์ส คุณอาจต้องเปลี่ยนทีมยกชุด” 
 
ภายหลังคำพูดนี้ถูกพิสูจน์ว่าจริง แต่อาจพ่วง “เปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม” เอาไว้ด้วย ในปีที่ 2 ของเสี่ยหมี แทงบอลออนไลน์

การลงทุนมหาศาล ถือกำเนิด เชลซีในยุคโรมันอันรุ่งเรือง

เชลซีในยุคโรมัน3

โรมัน เดินหน้าเข้ามาหาเชลซีจริงๆ และอย่างที่บอกว่าตอนนั้น แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้ 
 
มันเกิดขึ้นเร็วมากแม้แต่กระทั่งสื่ออังกฤษเองก็ผงะ เมื่อเรื่องมันแดงออกมาว่า เศรษฐีหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จักคนนี้กำลังจะเป็นเจ้าของคนใหม่ของเชลซี 
 
มาร์ค เทย์เลอร์ อดีตผู้อำนวยการสโมสรเชลซี เปิดเผยเรื่องราวตอนที่ทีมงานของเสี่ยหมี มาเจรจาซื้อสโมสรเอาไว้แบบนี้ 
 
“เชลซี มองหาผู้ลงทุนมาราว 18 เดือนแล้วตอนนั้น และเรามีพวกที่ทำให้เสียเวลาไปหลายคนแล้ว และ โรมัน มีความเป็นไปได้สูง” 
 
“ไม่มีใครรู้จักเขาจริงๆ จังๆเลย และเช้าวันศุกร์ทีมงานนักกฎหมายของเขา ก็หอบเอานิตยสาร Forbes จากสหรัฐอเมริกามาให้ดู และผมรู้สึกว่าเขาเป็นอันดับ 15 หรือไงเนี่ยแหละ มีทรัพย์สิน X พันล้านเหรียญดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยหละ” 
 
เริ่มแรก เขาซื้อสิทธิ์ในส่วนของ เคน เบทส์ เป็นจำนวนเงิน 60 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็น 50.9% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ต่อมา เขาก็เสนอราคาหุ้นละ 35 เพนนี สำหรับหุ้นที่เหลือ ก่อนจะซื้อมันได้ทั้งหมด 
 
โรมัน จ่ายไป 140 ล้านปอนด์ เพื่อเทคโอเวอร์เชลซีมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาในเดือนมิถุนายน 2003 เขาควักเงินจ่ายหนี้ของสโมสร ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่ 80 ล้านปอนด์ 
 
ซัมเมอร์แรกเขาลงทุนมโหฬารทันที เสริมทัพนักเตะหลายรายรวมแล้วราวๆ 112 ล้านปอนด์ ซึ่งในปี 2003 ถือว่ามหาศาลแบบไม่เคยมีใครทำมาก่อน 
 
ข้อได้เปรียบอีกอย่างก็คือ ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2002/03 เชลซี ของ รานิเอรี่ สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูลได้ 2-1 ในเกมที่ถือเป็นการชิงตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลถัดไป ทำให้เสี่ยหมี เริ่มต้นที่ เชลซี ได้ไปเล่นใน ชปล. โดยทันที 
 
ปี 2003/04 รานิเอรี่ ยังได้โอกาสทำงานต่อไปก่อน แต่ความกดดันมันมหาศาลเหลือเกิน เพราะเขาได้อาวุธหนักมูลค่า 112 ล้านปอนด์มาสดๆ ร้อนๆ 
 
แน่นอน หากไม่แชมป์ โดนปลดสถานเดียว และประวัติศาสตร์เราทุกคนรู้ 
 
รานิเอรี่ ทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 2 ตกเป็นรองอาร์เซน่อล “ชุดไร้พ่าย” ในปีนั้น และเขาก็โดนปลด 
 
ปีต่อมา ซัมเมอร์ 2004 อับราโมวิช ลงทุนครั้งสำคัญ และมันคือจุดเริ่มต้นแท้จริงของ “อาณาจักรโรมัน” ของเขา
 
เชลซี คว้าตัว โชเซ่ มูรินโญ่ มาคุมทีม พร้อมทุ่มเงินอีกเกือบ 100 ล้านปอนด์ เพื่อเสริมทัพ ปีนั้นพวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก มาครองสมใจ 
 
การเข้ามาอย่างวูบวาบอลังการของ โรมัน อับราโมวิช ตามติดด้วยกลุ่มทุนอาบู ดาบี ที่แมนฯ ซิตี้ นี่เอง ก่อให้เกิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ ขึ้นมาในภายหลัง 
 
แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องราวการสร้างอาณาจักรโรมันเขาที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็กลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของพงศาวดารลูกหนังอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย ข่าวนักเตะ