เปิดถ้อยคำแถลงเสี่ยหมี โรมัน อบราโมวิช
โรมัน อบราโมวิช เจ้าของฉายา “เสี่ยหมี่” ชีวิตของเขานั้น ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย เขาคือมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย วัย 55 ปี ที่มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นพิเศษ และจากความสัมพันธ์ตรงนี้นั่นเอง ทำให้เวลานี้มันได้กลายเป็นปัญหาขึ้นมา เพราะทั่วโลกนั้นกำลังพุ่งเป้าประณามรัสเซีย จากเหตุการณ์เปิดสงครามบุกยูเครน และนั่นส่งผลให้ล่าสุด โรมัน อบราโมวิชต้องแถลงอย่างเป็นทางการ ที่จะยอมขายสโมสรเชลซี ซึ่งเป็นสโมสรที่ตัวเขาเองเป็นเจ้าของมาตั้งแต่ปี 2003 ดูบอลสด
หากย้อนเวลากลับไปในปี 2003 ตอนที่โรมัน อบราโมวิชได้ทำการซื้อทีมเชลซี ทีมดังจากลอนดอน มีรายงานว่ามูลค่านั้นราวๆ 140ล้านปอนด์ มาถึงวันนี้เชลซีติดค้างเขาถึง 2,000ล้านปอนด์ ตามกระบวนการปั้นให้เป็นยอดทีมที่โด่งดังอย่างในปัจจุบัน และเชลซีในช่วงเกือบ2ทศวรรษหลังถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ๆของวงการฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว
ด้วยสไตล์การทำงานของโรมัน อบราโมวิชนั้นชัดเจน ไม่ได้คิดจะใช้แค่เม็ดเงินอย่างเดียว แต่โรมัน อบราโมวิชมีวิสัยทัศน์ที่ดีและกว้างไกล ตัดสินใจไวในการบริหารงานสโมสรเชลซี เมื่อไหร่ที่ผลงานของทีมไม่ดี เขาไม่เคยทนปล่อยไว้นานให้เสียเวลา เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แพงไม่ว่าแต่ขอให้ซื้อมาแล้วใช้ได้ดี โดย19ปีที่ผ่านมาเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปแล้ว15คนด้วยกัน โดยมีสุดยอดโค้ชหัวกะทิระดับโลก อาทิเช่น โจเซ่ มูรินโญ่, คาร์โล อันเชล็อตติ, อันโตนิโอ คอนเต้ และล่าสุดคือ โธมัส ทูเคิล ที่ได้เข้ามาร่วมงานกันในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ของเชลซี ทายผลบอล
เปิดถ้อยคำแถลงเสี่ยหมี โรมัน อบราโมวิช ตัดใจประกาศขายเชลซี ทีมที่เขาสร้างมาด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลของตัวเอง ตลอดระยะเวลาร่วม 20 ปีที่ผ่านมา
หลังจากนำพาความสำเร็จพร้อมถ้วยแชมป์มากมายมาสู่ทีม แต่ท้ายที่สุด ด้วยแรงกดดันจากเหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ล่าสุดนั้นเขาต้องยอมขายสโมสร โดยโรมัน อบราโมวิช กล่าวว่า
“ผมอยากจะกล่าวถึงข่าวลือของสื่อฯตลอดระยะเวลา2-3วันที่ผ่านมา ซึ่งมันเกี่ยวโยงกับความเป็นเจ้าของสโมสรเชลซีของผม”
“อย่างที่ผมเคยระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่าผมตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของสโมสรจากหัวใจของผมเสมอ และจากสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ผมจึงต้องตัดสินใจขายสโมสร เพราะผมเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดของสโมสร แฟนบอล พนักงาน ตลอดจนสปอนเซอร์และเหล่าพาร์ทเนอร์ทั้งหลายของสโมสร” โรมัน อบราโมวิช แถลงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรเชลซี
“การขายสโมสรเชลซีจะไม่เสร็จสิ้นในเร็ววันนี้ มันจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของมัน ผมไม่ร้องขอให้สโมสรคืนเงินที่ยืมไป สำหรับตัวผมมันไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจหรือเรื่องเงินอะไรทั้งนั้น แต่ผมมอบใจทั้งหมดให้กับเกมการแข่งขันและสโมสร และที่ยิ่งไปกว่านั้น ผมได้ฟอร์มทีมงานขึ้นมาและก่อตั้งมูลนิธิการกุศล ซึ่งเงินจากการขายทั้งหมดนั้นจะถูกนำไปบริจาค มูลนิธินี้จะนำผลประโยชน์ไปมอบให้กับเหยื่อสงครามในประเทศยูเครน รวมทั้งเหยื่อที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในทันที ตลอดจนการสนับสนุนในระยะยาวเพื่อการฟื้นฟูร่างกาย” แทงบอล
“นี่คือการตัดสินใจที่ยากลำบากมากๆ และมันทำให้ผมเจ็บปวดที่ต้องแยกทางกับสโมสรในรูปแบบนี้ ซึ่งอย่างไรก็ดี ผมก็ยังมีความเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์สูงสุดของสโมสร”
“ผมหวังลึกๆว่าผมจะสามารถเข้ามาเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ได้เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบอกลาพวกคุณทุกคน นับเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรฟุตบอลเชลซี สโมสรที่ดีอีกหนึ่งทีม และผมรู้สึกภาคภูมิใจในทุกๆความสำเร็จที่เรามีร่วมกัน สโมสรฟุตบอลเชลซีและแฟนบอลจะยังคงอยู่ในใจของผมตลอดไป” แทงบอลออนไลน์
ย้อนเวลาส่องแข้งเชลซีในยุค “เสี่ยหมี” เคยคว้า “นักเตะรัสเซีย-ยูเครน” มาร่วมทัพกี่ราย? หลังเปิดถ้อยคำแถลงเสี่ยหมีขายสโมสรมูลค่ากว่า 3 พันล้านปอนด์ และจะนำเงินทั้งหมดมอบให้แก่เหยื่อสงครามที่ยูเครน
จากการ เปิดถ้อยคำแถลงเสี่ยหมี ปิดฉาก 19 ปีอันยาวนานของ โรมัน อบราโมวิช หลังเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเชลซีเมื่อปี 2003 ก่อนทุ่มเม็ดเงินที่มีมูลค่ามหาศาล เปลี่ยนเชลซีให้เป็นทีมมหาเศรษฐีของวงการลูกหนัง ที่มีอิทธิพลสามารถดึงดูดนักเตะชื่อดังมาร่วมทัพด้วยค่าตัวสถิติโลก และยังก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอล ที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์มากมายอีกด้วย
โรมัน อบราโมวิชมีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับสโมสร จนทีมนั้นประสบความสำเร็จอย่างเยอะแยะมากมาย โดยในยุคของ อบราโมวิช เชลซีได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปถึง 5 สมัย ,เอฟเอ คัพ 5 สมัย , ลีก คัพ 3 สมัย , ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอีก 2 สมัย ในฤดูกาล 2011-12 และ 2020-21 แต่สุดท้ายแล้วเขากำลังจะเดินจากสโมสรที่เขารักและทุ่มเทมาตลอดเกือบ 20 ปี ข่าวนักเตะ
ซึ่งดีลสะเทือนวงการในยุค “เสี่ยหมี” ที่ต้องบอกว่ามีนักเตะชื่อดังมากมาย ต่างเดินขบวนพาเหรดเข้ามาร่วมทัพเชลซี แต่ต้องบอกเลยว่าในบรรดานักเตะเหล่านั้นมีนักเตะ “รัสเซีย-ยูเครน” ที่มีรายละเอียดการซื้อ-ขายน่าสนใจ บางรายถึงขั้นมีใบสั่งจากอบราโมวิช ให้ซื้อเข้ามาสู่ทีมด้วยตนเองเลยด้วยซ้ำ ซึ่งนักเตะเหล่านั้น ได้แก่
– อเล็กเซ สเมอร์ติน (ปี 2003) จาก บอร์กโดซ์ ราคา 3.4 ล้านปอนด์
เรียกว่าเป็นนักเตะรัสเซียคนแรกที่ประเดิมการเทคโอเวอร์สโมสรของ โรมัน อบราโมวิช เลยก็ว่าได้ สเมอร์ตินนั้นเป็นมิดฟิลด์สไตล์ฮาร์ดแมน ซึ่งเขาไม่ได้เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก แถมยังถูกซื้อเข้ามาพร้อมมิดฟิลด์ตัวตัดเกมระดับโลกอย่าง โคล้ด มาเกเลเล่ และดาวรุ่งแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษอย่าง สก็อต ปาร์คเกอร์ ซึ่งสเมอร์ตินลงสนามไปทั้งสิ้น 16 เกม
– อังเดร เชฟเชนโก้ (ปี 2006) จาก เอซี มิลาน ราคา 30 ล้านปอนด์
ดีลนี้เป็นดีลที่สะเทือนวงการลูกหนังโลกเป็นอย่างมาก มาพร้อมสถิตินักเตะค่าตัวสูงสุดของลีกอังกฤษในตอนนั้น นี่คือใบสั่งของเสี่ยหมี ที่เจ้าตัวนั้นชื่นชอบดาวยิงทีมชาติยูเครนเป็นการส่วนตัว และเชื่อว่าจะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้เชลซีกลายเป็นทีมที่ไร้เทียมทานในเกมรุก
– ยูริ เซอร์คอฟ (ปี 2009) จาก ซีเอสเคเอ มอสโก ราคา 18 ล้านปอนด์
ปีกดาวรุ่งที่ได้ชื่อว่าลีลาจัดจ้านที่สุดของรัสเซีย เขาถูกดึงเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในแนวริมเส้น เพื่อเป็นตัวเลือกร่วมกับขุมกำลังชุดเก่าอย่าง ฟลอร็องต์ มาลูด้า, โจ โคล และซาโลมง กาลู ก่อนที่จะร่วมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล2009-2010 ก่อนจะย้ายออกจากทีมในปี 2011 ฝากผลงานลงเล่น 29 นัด ทำได้ 1 ประตู
แต่ใช่ว่าจะมีแค่นักเตะสัญชาติรัสเซีย-ยูเครนเท่านั้น ยังมีนักเตะสัญชาติอื่นๆอีกหลายราย ที่ย้ายจากสโมสรในลีกรัสเซียมาร่วมทัพสิงโตน้ำเงินครามเชลซี ซึ่งเชื่อกันว่า ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นอิทธิพลที่ได้มาจาก โรมัน อบราโมวิช ทั้งสิ้น ซึ่งนักเตะเหล่านั้นได้แก่
- ยีรี่ ยาโรซิค (ปี 2005) ดาวเตะเช็กจาก ซีเอสเคเอ มอสโก ราคา 3 ล้านปอนด์
- มานิเช (ปี 2006) กองกลางโปรตุเกส จาก ดินาโม มอสโก ยืมตัว
- บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเซอร์เบียร์ จาก โลโคโมทีฟ มอสโก ราคา 9.7 ล้านปอนด์
- วิลเลี่ยน ปีกบราซิล จาก อันชี่ มาคัชคาล่า ราคา 30 ล้านปอนด์
- ซามูเอล เอโต้ กองหน้าแคเมอรูน จาก อันชี่ มาคัชคาล่า ราคา 2 ล้านปอนด์