เลวานดอฟสกี้ทุบสถิติ ซัดแฮตทริกเร็วสุด

เลวานดอฟสกี้ทุบสถิติ1

“เลวานดอฟสกี้” ทุบสถิติ “ซิโมเน” ซัดแฮตทริกเร็วสุด หลังเริ่มเขี่ยบอลในศึกชปล.

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าตัวเก่งของยอดทีมเมืองเบียร์อย่าง บาเยิร์น มิวนิก สร้างสถิติยิงแฮตทริกเร็วที่สุด ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นับตั้งแต่เขี่ยลูกเริ่มเกม หลังถล่ม เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ขาดลอยไปถึง 7-1 ในรอบ16ทีมสุดท้าย เลกที่2 เมื่อวันอังคารที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ดูบอลสด

ถึงแม้ว่า เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก จะสร้างปาฏิหาริย์ ยันเสมอยอดทีมอย่างบาเยิร์นฯ 1-1 ในเลกแรก แต่ทว่าความหวังกลับพังทลายตั้งแต่ต้นเกม หลังโดน เลวานดอฟสกี้ ทะลวงตาข่ายไป3ลูกรวด ด้วยเวลาเพียงแค่23นาทีเท่านั้น

กองหน้าตัวเก่งชาวโปแลนด์ ลงเล่นเกมที่ 100 เฉพาะในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ทำการสังหาร2จุดโทษ ภายในเวลา21นาที หลังถูก มักซิมิเลียน โวเบอร์ ปราการหลัง ซัลซ์บวร์ก ทำฟาวล์ถึง2ครั้ง โดยจุดโทษที่2มาจากการที่ต้องใช้วิดีโอในการช่วยตัดสิน (VAR)

ประตูจากการสังหารจุดโทษลูกแรกนั้น นับเป็นประตูที่ 40 ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โดยรวมทุกรายการตลอดซีซั่นนี้

ต่อมา ดาวยิงจอมเก๋าวัย 33 ปี ปั๊มบอลกับทาง ฟิลิปป์ โคห์น นายทวารทีมเยือน แล้วใช้หน้าแข้งกระแทกบอลในระยะเผาขน เข้าประตูไปในนาทีที่23 ทุบสถิติเดิมของ มาร์โก ซิโมเน กองหน้าของเอซี มิลานที่เคยทำไว้24นาที ในเกมที่มิลาน พบ โรเซนบอร์ก เมื่อปี1996

สำหรับสถิติเหมา3ประตูเร็วสุด (เกิดในช่วงครึ่งเวลาหลัง ไม่ใช่ตั้งแต่เขี่ยลูกเริ่มเกม) ของทัวร์นาเมนต์ เป็นของ บาเฟติมบี โกมิส อดีตหัวหอกของโอลิมปิก ลียง ทีมดังในลีกเอิง โดยทำไว้เพียง7นาทีเท่านั้น (นาทีที่45,48 และ52) ในเกมถล่ม ดินาโม ซาเกร็บ 7-1 เมื่อปี2011 ทายผลบอล

ย้อนดู2เกมแชมเปี้ยนส์ลีกใน2ฤดูกาล ที่บาเยิร์นยิงถึง7ลูกก่อนที่ เลวานดอฟสกี้ทุบสถิติ

เลวานดอฟสกี้ทุบสถิติ2

ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น นอกจากจะทำให้ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศจากการชนะด้วยสกอร์รวม2นัด 8-2 แล้วนั้น เกมนี้ยังถือเป็นครั้งที่7 เข้าไปแล้วด้วยที่ บาเยิร์น มิวนิค สามารถทำประตูของคู่แข่งได้อย่างน้อย7ลูกภายในเกมเดียวในเกมถ้วยใหญ่ระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ไม่นับรวมสมัยใช้ชื่อ ยูโรเปี้ยน คัพ) ซึ่งในนัดนี้ ยังส่งผลให้ เลวานดอฟสกี้ทุบสถิติ ซัดแฮตทริกเร็วได้สำเร็จ แทงบอล

ทั้งนี้ บาเยิร์น มิวนิค ถือเป็นทีมที่ยิงใส่คู่แข่งได้ถึง7ลูกต่อนัด ถือว่าบ่อยที่สุดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่าบรรดาทีมที่ใกล้กับพวกเขามากที่สุดเกิน2เท่าด้วยซ้ำไป ซึ่งวันนี้เราจะมาย้อนดูกันว่า6ครั้งก่อนหน้านี้ ที่ยอดทีมจากแคว้นบาวาเรียทำได้นั้น มันเคยเกิดขึ้นในเกมไหนมาแล้วบ้าง แทงบอลออนไลน์

– สปอร์ติ้ง ลิสบอน : 2008-09
บาเยิร์น มิวนิค ในขณะนั้นทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มของเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ดี ด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม เอฟ และพอถึงเวลาจับสลากแล้วนั้นพวกเขาก็ไปเจอกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน

เพียงแค่นัดแรกของรอบ16ทีมสุดท้าย บาเยิร์น ก็บุกไปเอาชนะสปอร์ติ้ง ถึงถิ่น 5-0 จนทำให้เกมมันแทบจะจบลงตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็ว่าได้ แต่พอกลับมาเล่นนัดที่สองที่เมืองมิวนิค บาเยิร์นก็ยังจัดหนักจนสามารถเอาชนะไปได้ถึง 7-1 โดยได้ประตูจาก ลูคัส โพดอลสกี้ 2ประตู, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มาร์ค ฟาน บอมเบล, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ โธมัส มุลเลอร์ ทำไปคนละ 1ประตู และการทำเข้าประตูตัวเองของ อันแดร์สัน โพลต้า อีก 1ประตู ทำให้สกอร์รวม2นัดนั้น บาเยิร์นเอาชนะไปได้แบบขาดลอยถึง 12-1 แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องตกรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของ บาร์เซโลน่าในเวลาต่อมา

– บาเซิ่ล : 2011-12
ในการเล่นรอบ16ทีมสุดท้าย นัดแรกนั้นเกิดเรื่องสุดช็อกขึ้นเมื่อบาเยิร์นออกไปแพ้บาเซิ่ลถึงถิ่น 0-1 ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในตอนนั้นหลายคนก็คาดกันว่า บาเยิร์นจะต้องเจอกับความกดดันอย่างหนักในการเล่นนัดที่สอง ถึงแม้จะได้กลับไปเล่นในบ้านของตัวเองก็ตาม

แต่ก็ผิดคาด การได้ประตูอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่11 จากอาร์เยน ร็อบเบน ทำให้บาเยิร์นเล่นได้ง่ายขึ้นมาก ก่อนที่สุดท้ายบาเยิร์นจะล้างแค้นแบบถึงใจ ด้วยการชนะบาเซิ่ลไปถึง 7-0 โดยในเกมนั้น ร็อบเบนทำได้ 2ประตู แต่คนที่โดดเด่นที่สุดคือ มาริโอ โกเมซ ศูนย์หน้าร่างยักษ์ เพราะเขาทำไปถึง4ประตู ขณะที่อีก1ประตูเป็นผลงานของโธมัส มุลเลอร์

แต่ที่สุดแล้วในฤดูกาลนั้น ถึงแม้บาเยิร์นจะไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีกซีซั่นนั้นได้ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเชลซี ในช่วงดวลจุดโทษนั่นเอง

เจาะลึก2นัด ใน1ฤดูกาลที่บาเยิร์นถล่มใส่ทีมอื่น7ลูก ก่อนที่เลวานดอฟสกี้ทุบสถิติในฤดูกาลนี้

เลวานดอฟสกี้ทุบสถิติ3

– อาแอส โรม่า : 2014-15
2นัดแรกกับการเล่นในรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่ม ดี เกมในแนวรุกของบาเยิร์นยังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่ พวกเขาต้องรอจนถึงช่วงท้ายเกมกว่าที่จะเปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 1-0 และในนัดต่อมาก็ชนะซีเอสเคเอ มอสโก แบบหืดขึ้นคอด้วยสกอร์เดียวกันคือ 1-0

อย่างไรก็ตามในการเล่นนัดที่ 3 ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก อิตาลี พลพรรคของยอดทีมเมืองเบียร์ก็ปล่อยฟอร์มสุดโหด บุกไปยำใหญ่โรม่าถึงถิ่น ด้วยสกอร์ 7-1 จากการทำประตูของ6คนด้วยกัน โดย2ประตูเป็นของ ร็อบเบน กับ มาริโอ เกิทเซ่, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ และเซร์ดาน ชากิรี่ อีกคนละ1ประตู

– ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค : 2014-15
หลังจากเป็นแชมป์ของกลุ่ม ดี ได้สำเร็จ บาเยิร์นก็ต้องมาเจอกับชัคตาร์ในรอบ16ทีมสุดท้าย ซึ่งในนัดแรกนั้น ชัคตาร์ทำผลงานได้โดดเด่นจนสามารถทำให้สกอร์จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ที่บ้านของชัคตาร์นั่นเอง

แต่ถึงกระนั้น นัดที่สองเตะกันที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า ฝั่งบาเยิร์นก็ถลุงอีกฝ่ายไปแบบยับเยินถึง 7-0 ซึ่งส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะพวกเขาได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 4 จากโธมัส มุลเลอร์ โดยเกมนี้มุลเลอร์ทำคนเดียว2ประตู ส่วนที่เหลืออีก5ประตู มาจาก เยโรม บัวเต็ง, ฟร้องค์ ริเบรี่, โฮลเกอร์ บาสตูเบอร์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ มาริโอ้ เกิทเซ่ แต่สุดท้ายในซีซั่นนั้นบาเยิร์นก็ไปถึงเพียงแค่รอบรองชนะเลิศเท่านั้นเอง

– สเปอร์ส : 2019-20
ทันทีที่ผลจับสลากของกลุ่ม บี ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น หลายคนก็คาดกันว่าสเปอร์สจะเป็นทีมที่สร้างความปั่นป่วนให้กับบาเยิร์นได้มากที่สุด เพราะเพื่อนร่วมสายอีก2รายได้แก่ โอลิมเปียกอส กับ เร้ดสตาร์ เบลเกรด ขุมกำลังนั้นไม่ได้มีความแข็งแกร่งอะไร

บาเยิร์น และสเปอร์ส ต้องมาเจอกันในนัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม โดยเป็นเกมที่ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม แต่ถึงแม้จะมาเล่นนอกบ้าน บาเยิร์นก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีศักยภาพที่เหนือกว่า ด้วยการเอาชนะไปได้แบบขาดลอยถึง 7-2 ซึ่งคนที่โดดเด่นที่สุดในเกมนั้นคือ แซร์จ นาบรี้ ที่ทำไปถึง4ประตูด้วยกัน ส่วนที่เหลือเป็นทางเลวานดอฟสกี้2ประตู กับ โยชัว คิมมิชอีก1ประตู

– บาร์เซโลน่า : 2019-20
ด้วยความที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักหน่วงของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกมในรอบก่อนรองชนะเลิศนี้ ระหว่าง บาเยิร์น กับ บาร์เซโลน่า ในซีซั่นนั้นต้องเตะกันแบบนัดเดียวรู้ผล ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้หลายคนเสียดายอย่างมาก

ในตอนแรกนั้นทุกคนคิดว่านี่จะเป็นเกมที่สูสีกัน เมื่อเทียบกับชื่อชั้นและขุมกำลังของทั้ง2ทีมแล้ว แต่เกมดันพลิก กลายเป็นว่าบาเยิร์นโชว์ฟอร์มเทพเอาชนะไปได้ถึง 8-2 ส่งผลให้นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี1946 ที่ทีมยักษ์ใหญ่ระดับบาร์เซโลน่าพลาดท่าเสียถึง8ประตูในเกมเดียว ขณะที่หลังจากนั้น บาเยิร์นก็ยังโชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมจนคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครอบครองได้ในที่สุด ข่าวนักเตะ